เตรียมตัวอย่างไรหากเกิดน้ำท่วมบ้าน

โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะด้วยกัน

ระยะแรก : เตรียมรับมือก่อนน้ำท่วม

หากได้รับสัญญาณหรือคำเตือนจากภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีโอกาสที่น้ำจะท่วม เราควรรีบเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดกับบ้าน

  • ขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ขึ้นที่สูง ทั้งทรัพย์สินมีค่า เครื่องใช้ไฟฟ้าและยานพาหนะไปยังที่ปลอดภัย
  • กักตุนสิ่งของที่จำเป็น สำหรับการอยู่อาศัยในช่วงน้ำท่วม ซึ่งต้องคำนึงให้เพียงพอต่อจำนวนผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน สิ่งที่ควรเตรียมไว้ได้แก่
    • น้ำสะอาด ทั้งสำหรับดื่มและอาบ
    • อาหารที่สามารถรับประทานได้ง่าย ๆ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ขนมปัง
    • ยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาแก้ปวด ยาลดไข้ ยาสำหรับผู้มีโรคประจำตัว
    • สิ่งของจำเป้น เช่น ผ้าอนามัย ถุงพลาสติก กระดาษชำระ
    • อุปกรณ์ให้แสงสว่าง เช่น ไฟฉาย เทียนไข ไฟแช็ค ไม้ขีดไฟ เป็นต้น
  • เก็บเอกสารสำคัญ ๆ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชีธนาคาร โฉนดที่ดิน ฯลฯ เก็บใส่ไว้ในซองพลาสติกกันน้ำ ปิดซองให้เรียบร้อย
  • ชาร์จแบตสำรองไว้ให้เต็ม และเก็บไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินหากโทรศัพท์แบตเตอรี่หมด
  • หากมีผู้ป่วย ผู้สูงอายุ เด็ก และสัตว์เลี้ยง ควรพาไปอยู่สถานที่อื่นหรือที่ที่ปลอดภัย
  • หากมีโอกาสที่น้ำท่วมสูงกว่าจุดที่มีเต้ารับปลั๊กไฟ ควรหาเทปกาวมาปิดเพื่อป้องกันการรั่วไหลของไฟฟ้า
  • ตรวจเช็คถังแก๊สเพื่อป้องกันการเกิดแก๊สรั่ว
  • เตรียมรองเท้าบูต หรือรองเท้ายาง เพื่อป้องกันการเหยียบเศษหรือสิ่งของต่าง ๆ
  • จัดหากระสอบทรายหรืออุปกรณ์สำหรับกั้นน้ำ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่น้ำจะเข้าท่วมบ้าน
  • ติดตามข่าวสารให้ดีและคอยสังเกตความผิดปกติของธรรมชาติ

ระยะที่สอง : ช่วงเกิดเหตุน้ำท่วม

หากบ้านของท่านเกิดเหตุน้ำท่วมแล้ว ควรตั้งสติและเตรียมตัวเพื่อรับมือกับมวลน้ำที่กำลังไหลเข้ามาเรื่อย ๆ หากมีน้ำไหลเข้ามาในบ้านแล้ว ควรเตรียมตัวดังนี้

  • อพยพขึ้นที่สูง
  • ตัดระบบไฟฟ้าในบ้าน ปิดการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ และห้ามใช้ปลั๊กไฟโดยเด็ดขาด รวมถึงไม่ควรสัมผัสปลั๊กไฟหรือสวิตซ์ไฟด้วย
  • คอยเฝ้าระวังสัตว์มีพิษหรือสัตว์อันตรายที่อาจจะมาตามกระแสน้ำหรือหนีน้ำมา
  • ใส่รองเท้าบูตหรือรองเท้ายางทุกครั้งหากต้องเดินลุยน้ำ
  • อาจเกิดการท่วมจากท่อน้ำในบ้านได้ เพราะหากด้านนอกบ้านน้ำท่วมสูงมาก น้ำในท่อจะไหลย้อนกลับขึ้นมา ควรหากระสอบสายมาทบบริเวณปากของท่อระบายน้ำ หรือใช้เศษกระดาษหนังสือพิมพ์มาขยำ ๆ แล้วยัดลงไปในท่อชั่วคราว
  • ติดตามการแจ้งเตือนน้ำท่วมจากโทรทัศน์หรือโซเชียลมีเดียอยู่ตลอด เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และรวบรวมเบอร์สายด่วนที่ให้ข้อมูลและช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
    • กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โทร 1784
    • ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โทร 192
    • กรมอุตุนิยมวิทยา โทร 1182
    • กรมชลประทาน โทร 1460
    • ศูนย์ปลอดภัยทางน้ำ โทร 1199
    • บริการแพทย์ฉุกเฉิน โทร 1669

ระยะที่สาม : หลังจากน้ำท่วม

ช่วงหลังเหตุการณ์น้ำท่วม ย่อมทิ้งร่องรอยของความเสียหายให้แก่ตัวบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราควรตรวจสอบและฟื้นฟูเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่บ้านและทรัพย์สินของเรามากเกินไป

  • ควรเดินตรวจสอบรอบบ้าน เพื่อตรวจเช็กความเสียหายที่เกิดขึ้น
  • ตรวจเช็กระบบไฟฟ้า สายไฟ ปลั๊กไฟ เต้ารับ ว่าได้รับความเสียหายมากน้อยเพียงใด
  • ตรวจเช็กเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงถังแก๊สเพื่อป้องกันการรั่วซึมของแก๊ส
  • ตรวจสอบท่อน้ำว่ามีรอยแตกหรือรั่วไหม
  • ทำความสะอาดบ้านในบริเวณที่เกิดน้ำท่วม เปิดประตูและหน้าต่าง เพื่อเป็นการระบายฝุ่นและความชื้นในตัวบ้าน
Share the Post: